หากคุณเคยสังเกตเห็นตุ่มนูนเล็กๆ สีเหลืองหรือขาวขุ่นบนใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก แก้ม หรือจมูก อาจเป็นไปได้ว่าคุณกำลังพบกับภาวะที่เรียกว่า Sebaceous Gland Hyperplasia (SGH) หรือภาวะต่อมไขมันโตผิดปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมัน หรืออายุมากขึ้น
สาเหตุของ SGH ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- อายุที่เพิ่มขึ้น พบมากในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
พันธุกรรม ถ้าคนในครอบครัวเคยเป็น ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้
ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen hormones) มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน
การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันหนาตัวขึ้น
ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง – พบได้บ่อยในผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
อันตรายหรือไม่?
โดยทั่วไป SGH ไม่ใช่มะเร็งผิวหนัง และไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม อาจดูคล้ายกับ Basal Cell Carcinoma (BCC) ซึ่งเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง หากมีลักษณะผิดปกติ เช่น มีเลือดออก โตเร็ว หรือเปลี่ยนสี ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
รักษาได้อย่างไร?
ถึงแม้ SGH จะไม่เป็นอันตราย แต่บางคนอาจรู้สึกกังวลเรื่องความสวยงาม ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีในการกำจัด SGH ได้แก่
เลเซอร์ (CO₂ Laser, Erbium Laser) – ใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อลดขนาดต่อมไขมัน
จี้ไฟฟ้า (Electrocautery) – ใช้ไฟฟ้าในการทำลายเนื้อเยื่อของตุ่ม
Cryotherapy – ใช้ไนโตรเจนเหลวแช่แข็งตุ่มจนแห้งและหลุดไป
ทายาลดการทำงานของต่อมไขมัน เช่น ยาที่มีกรดวิตามินเอ (Retinoids)
ป้องกันอย่างไร?
ถึงแม้ SGH จะไม่สามารถป้องกันได้ แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงได้โดย
ทาครีมกันแดด เป็นประจำเพื่อลดผลกระทบจากรังสี UV
เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยควบคุมความมัน และช่วยผลัดเซลล์ผิว
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดของมัน ของทอด
ดูแลความสะอาดของผิวหน้า แต่ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะอาจกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากขึ้น
ต่อมไขมันโต จึงเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนที่มีอายุมากขึ้น หรือผิวมัน แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่สามารถรักษาหรือจัดการได้หากส่งผลต่อความมั่นใจของคุณ หากสงสัยว่าตุ่มที่เห็นเป็น SGH หรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
BoNTCARE Clinic พร้อมดูแลทุกปัญหาผิวของคุณ หากคุณต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะต่อมไขมันโตหรือต้องการรับการรักษาอย่างปลอดภัย ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของเราได้นะคะ