มีคนไข้มาปรึกษาว่า มีผมร่วงเป็นวงๆ มานาน 4 เดือน ไปปรึกษามาหลายคลินิกว่าต้องไปโรงพยาบาล หมอเลยให้คำแนะนำและรับรักษา
เรามาทำความรู้จักกับภาวะผมร่วงเป็นหย่อม ที่เรียกว่า Alopecia areata เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายรากผม จึงทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมกลมเล็กๆ
- ปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันตัวเอง ทำลายรากผม จนเกิดการหยุดชะงักการเจริญเติบโตของเส้นผม
- ปัจจัยทางพันธุกรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิคุ้มกัน เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เบาหวานชนิดที่ 1 หรือโรคไทรอยด์ มีแนวโน้มเป็นมากขึ้น
- ความเครียดทางจิตใจหรือร่างกายสามารถกระตุ้นหรือทำให้อาการแย่ลง
- การติดเชื้อหรือการสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมบางอย่างอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติจนทำให้ผมร่วง
อันตรายหรือไม่?
ภาวะผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia areata ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต และไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย แต่ส่งผลกระทบทางอารมณ์และจิตใจเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของรูปลักษณ์ ในบางกรณีผู้ป่วยอาจพัฒนาโรคภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคไทรอยด์ แต่โดยทั่วไปแล้วภาวะนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพโดยตรง
วิธีการรักษา
- ยาทาเฉพาะที่ ได้แก่การทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เพื่อกดระบบภูมิคุ้มกันเฉพาะจุด ทาในรูปแบบครีม ขี้ผึ้ง หรือโลชั่น เพื่อกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม
Minoxidil ยาที่มักใช้รักษาผมร่วงทั่วไป แต่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมในผู้ป่วย alopecia areata ได้ - การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ตรงบริเวณที่ผมร่วง เพื่อกระตุ้นให้ผมงอกใหม่
- ในกรณีที่ผมร่วงมาก อาจใช้ยารับประทานหรือยาที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์หรือยากดภูมิคุ้มกัน ยากลุ่ม JAK inhibitors เช่น tofacitinib และ ruxolitinib กำลังอยู่ในขั้นการศึกษาและมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม
- การบำบัดด้วยแสง (Phototherapy)
PUVA หรือ UVB Light Therapy: การฉายแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะบนบริเวณที่ผมร่วงอาจช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ในบางกรณี - การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลดความเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น โยคะ การทำสมาธิ หรือการบำบัดจิตใจ อาจช่วยบรรเทาอาการได้
- การใช้วิกหรือผมปลอม ซึ่งไม่ต้องใช้ยา ช่วยฟื้นฟูความมั่นใจระหว่างที่รอผมงอกใหม่
แนวโน้มของโรค
Alopecia areata มีลักษณะอาการที่ เปลี่ยนแปลงได้หลากหลาย ในหลายกรณีเส้นผมจะงอกกลับมาใหม่ภายในไม่กี่เดือน โดยไม่ต้องใช้การรักษา แต่ในบางคนอาจมีอาการยาวนาน หรือกลับมาเป็นใหม่ โดยเฉพาะในกรณีที่ผมร่วงทั่วทั้งศีรษะ (alopecia totalis) หรือทั้งร่างกาย (alopecia universalis) การวิจัยอย่างต่อเนื่องกำลังพัฒนาการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แม้โรคนี้จะไม่อันตราย แต่การให้ กำลังใจและคำปรึกษาทางจิตใจ มักมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เผชิญกับผลกระทบทางอารมณ์จากการเกิดผมร่วง