นวัตกรรมเพื่อผิวสวยเหนือระดับ
มลภาวะในปัจจุบันคือหนึ่งในตัวการหลักที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยก่อนวัย และความหมองคล้ำ Anti-Pollution Treatment จาก Toskani ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การฟื้นฟูและปกป้องผิวอย่างครบวงจร ด้วยส่วนผสมระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว พร้อมฟื้นบำรุงจากภายในสู่ภายนอก
1. Hydraprotective Complex (HPC)
- ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอย
2. Saccharide Isomerate
Saccharide Isomerate เป็นสารที่สกัดจากน้ำตาลธรรมชาติ โดยมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับคาร์โบไฮเดรตในผิวมนุษย์ ทำให้สามารถจับกับเคราตินในชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติที่โดดเด่นนี้ทำให้ Saccharide Isomerate เป็นหนึ่งในสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
- ลดการอักเสบ
- ป้องกันการเกาะของฝุ่นละออง
- เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
3. Glutathione
กลูตาไธโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย
- ลดอนุมูลอิสระ
- เสริมระบบภูมิคุ้มกันของผิว
- ลดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- ปกป้องผิวจากมลภาวะ
4. วิตามินรวม (A, B3, C, E)
วิตามิน A
วิตามินเอเป็นสารอาหารที่พบได้ในอาหารชนิดต่างๆ ทั้งจากสัตว์และจากพืช การรับประทานอาหารที่สมดุล และมีความหลากหลายเป็นทางเลือกที่ดีที่เราจะได้รับวิตามินที่จำเป็นเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ
แหล่งวิตามิน A จากเนื้อสัตว์
- ตับ: ตับเป็นแหล่งวิตามินเอที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแหล่งหนึ่ง ตับหมู 30 กรัม ให้วิตามินเอมากถึง 1,800 ไมโครกรัม ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน (900 ไมโครกรัม)
- ปลา: ปลาบางประเภท โดยเฉพาะปลาที่มีน้ำมันเยอะจะอุดมไปด้วยวิตามินเอ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า
- ผลิตภัณฑ์จากนม: นมสด ชีส เนย และโยเกิร์ตล้วนเป็นแหล่งอาหารที่ให้วิตามินเอที่ดี ตัวอย่างเช่น นมสด 1 ถ้วยสามารถให้เรตินอลได้ประมาณ 100 ไมโครกรัม
- ไข่: ไข่ขนาดใหญ่ 1 ฟองจะให้เรตินอลประมาณ 80 ไมโครกรัม
แหล่งวิตามิน A จาก ผักและ ผลไม้
- แครอท: แครอทเป็นแหล่งเบต้าแคโรทีนที่รู้จักกันดี แครอทขนาดกลางหนึ่งหัวสามารถให้เรตินอลประมาณ 500 ไมโครกรัม
- ผักใบเขียวเข้ม: ผัก เช่น ผักโขม คะน้า และผักกระหล่ำปลี เต็มไปด้วยเบต้าแคโรทีน เช่น ผักโขมต้มหนึ่งถ้วยสามารถให้เรตินอลได้มากกว่า 900 ไมโครกรัม
- ผลไม้: ผลไม้บางชนิด เช่น มะม่วง แอปริคอต และแคนตาลูป อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน
ลดริ้วรอยลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
วิตามิน B3
วิตามินบี3 เป็นหนึ่งในวิตามินพื้นฐานที่สำคัญและจำเป็นสำหรับร่างกาย ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ของปฏิกิริยาเผาผลาญสารอาหาร เพื่อนำไปสร้างสารสำคัญต่าง ๆ แก่ร่างกายให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์และมีประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย
- พบมากในธัญพืช เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง และผลไม้
- ป้องกันการสูญเสียน้ำและลดการระคายเคือง
วิตามิน C
วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) คือ วิตามินชนิดละลายน้ำได้ แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเอง จึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินซีจากแหล่งต่างๆ เช่น ในอาหารและอาหารเสริมต่างๆ มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และช่วยในการซ่อมแซมฟื้นฟูและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อด้วย ช่วยทำให้แผลสมานและหายเร็วขึ้น และช่วย
- เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย
- เพิ่มความยืดหยุ่น ลดรอยดำ และลดการอักเสบ
วิตามิน E
วิตามินอี (Vitamin E) คือ สารอาหารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยบำรุงสมอง ดวงตา ผิงหนัง และเซลล์ในร่างกายของเราอีกด้วย วิตามินอีสามารถพบได้ทั่วไปในอาหาร เช่น ในถั่วอัลมอนด์ มะเขือเทศ ผักโขม และน้ำมันมะกอก การขาดวิตามินอี
ลดความเสียหายจากออกซิเดชัน
5. Hyaluronic Acid
Hyaluronic Acid (HA) หรือ กรดไฮยาลูโรนิก คือ สารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย ถูกผลิตขึ้นบริเวณผิวหนังชั้นใน (Dermis) มีปริมาณมากในเนื้อเยื่อภายนอกเซลล์และคอยยึดจับโปรตีนคอลลาเจนเข้าไว้ด้วยกัน มีคุณสมบัติเด่นเป็นสารอุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวหนังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและเต่งตึง นอกจากนี้สารไฮยาลูรอนยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกอ่อนตามข้อต่อในร่างกาย เพราะสารไฮยาลูรอนนี้จะช่วยหล่อลื่นข้อต่อไม่ให้เสียดสีกัน
- ให้ความชุ่มชื้น
- ทำให้ผิวเนียนนุ่ม
คุณสมบัติ
- ป้องกันมลภาวะ
- ฟื้นฟูเซลล์ผิว
- ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น
- เสริมความชุ่มชื้น
- ลดจุดด่างดำ
- ลดการอักเสบ
เหมาะกับทุกสภาพผิว และผิวที่ต้องการดูแล