หากคุณเคยสังเกตเห็นผื่นแดง คัน และผิวแห้งแตกบริเวณขาส่วนล่างหรือข้อเท้า อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่เพียงแค่ผิวแห้งทั่วไป แต่อาจเป็น “Static Eczema” หรือ “Stasis Dermatitis” ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
Static Eczema หรือ Stasis Dermatitis เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่เกิดจากภาวะ เลือดไหลเวียนผิดปกติ โดยเฉพาะในผู้ที่มี ภาวะหลอดเลือดดำไม่สมบูรณ์ (Venous Insufficiency) ทำให้เลือดไหลเวียนกลับสู่หัวใจได้ไม่ดี ส่งผลให้เกิดการคั่งของเลือดที่ขาส่วนล่าง ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง
สาเหตุของ Static Eczema
Static Eczema มักเกิดใน ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ เช่น
- ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน (Deep Vein Thrombosis – DVT)
เส้นเลือดขอด (Varicose Veins)
ภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure – CHF)
ภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema)
การยืนนานหรือนั่งนานเกินไป ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
อาการของ Static Eczema
เมื่อเลือดคั่งสะสมที่ขาเป็นเวลานาน ผิวหนังจะเริ่มแสดงอาการดังนี้
ผื่นแดง คัน และลอกเป็นขุย
ผิวแห้ง แตก และมีสะเก็ด
ผิวหนังบางลง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือม่วง (เกิดจากเม็ดเลือดแดงแตกและตกค้างในผิว)
บวมบริเวณข้อเท้าและขาส่วนล่าง
แผลเรื้อรังที่หายช้า หากอาการรุนแรงขึ้น
Static Eczema ต่างจากโรคผิวหนังอื่นอย่างไร?
Static Eczema มักเกิดเฉพาะที่ขาส่วนล่าง และเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนเลือดผิดปกติ แตกต่างจากโรคผิวหนังทั่วไป เช่น ผื่นภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis) ที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
ป้องกัน Static Eczema ได้อย่างไร ?
- ควบคุมน้ำหนัก ลดแรงกดที่ขา
- ยกขาสูงเป็นประจำ เพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือนั่งนานเกินไป
- สวมถุงน่องทางการแพทย์ (Compression Stockings) เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด
- ดูแลผิวให้ชุ่มชื้น ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
แนวทางการรักษา Static Eczema
- ทาครีมสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ
- ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น ป้องกันผิวแห้งแตก
- ยาปฏิชีวนะในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ควบคุมภาวะหลอดเลือดดำไม่สมบูรณ์ เช่น การใช้ถุงน่องสำหรับเส้นเลือดขอด หรือการรักษาด้วยเลเซอร์
- หากมีแผลเรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อการดูแลที่เหมาะสม
Static Eczema จึงเป็นโรคผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนเลือดผิดปกติ มักพบที่ขาส่วนล่าง โดยมีอาการคัน แดง ผิวแห้งแตก และเกิดรอยดำ หากไม่ได้รับการดูแล อาจนำไปสู่แผลเรื้อรัง การป้องกันและรักษาเน้นไปที่การควบคุมปัจจัยเสี่ยง ปรับพฤติกรรม และดูแลสุขภาพของหลอดเลือดเป็นหลัก
หากคุณมีอาการดังกล่าว อย่าปล่อยไว้จนลุกลาม ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม