ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยใหม่ ๆ ยืนยันว่า สุขภาพลำไส้มีผลต่อ ภูมิคุ้มกัน โรคอ้วน เบาหวาน ภาวะซึมเศร้า ไปจนถึงโรคทางสมองด้วย
ไมโครไบโอม (Microbiome) คือกลุ่มจุลินทรีย์ที่อยู่ในร่างกายเรา ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในลำไส้ มีทั้งแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ (probiotics) และที่อาจก่อโรค สมดุลระหว่างสองกลุ่มนี้มีผลต่อสุขภาพในหลายด้าน ได้แก่
• การย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร
• การสร้างวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินเค, วิตามินบี12
• การพัฒนาภูมิคุ้มกัน และการลดการอักเสบ
• การสื่อสารกับสมอง ผ่าน “gut-brain axis” มีผลต่ออารมณ์ ความเครียด และการนอน
อะไรทำให้สมดุลลำไส้เสีย
• การรับประทานอาหารแปรรูปสูง ไขมันและน้ำตาลมาก
• การใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยครั้ง
• ความเครียดเรื้อรังและการนอนน้อย
• การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
• ขาดการออกกำลังกาย
งานวิจัยพบว่าความไม่สมดุลของไมโครไบโอม (dysbiosis) อาจสัมพันธ์กับโรคอ้วน เบาหวานชนิดที่ 2 โรคลำไส้อักเสบ (IBD) ภาวะซึมเศร้า และแม้แต่โรคพาร์กินสัน
วิธีดูแลสุขภาพลำไส้
กินอาหารไฟเบอร์สูง: ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ช่วยเลี้ยงจุลินทรีย์ที่ดี (prebiotics)
อาหารหมักดองธรรมชาติ เช่น กิมจิ โยเกิร์ต คอมบูชา มีโพรไบโอติกที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์
ลดน้ำตาลและอาหารแปรรูป เพราะส่งเสริมการเจริญของแบคทีเรียก่อโรค
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งานวิจัยพบว่าช่วยเพิ่มชนิดจุลินทรีย์ที่ดี
นอนหลับพอ และจัดการความเครียด เพราะไมโครไบโอมมีผลต่อ gut-brain axis
ใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล เท่าที่จำเป็นและตามแพทย์สั่งเท่านั้น
อนาคตของการแพทย์ด้าน Gut Health
• การตรวจ gut microbiome sequencing เพื่อตรวจสมดุลจุลินทรีย์รายบุคคล
• การพัฒนา probiotics รุ่นใหม่ และ postbiotics (สารที่จุลินทรีย์สร้างออกมา)
• การใช้ microbiome therapy เช่น การปลูกถ่ายจุลินทรีย์จากอุจจาระ (FMT) เพื่อรักษาโรคติดเชื้อซ้ำ เช่น Clostridioides difficile (CDC แนะนำแล้วในบางกรณี)
วันนี้เริ่มง่าย ๆ โดยการรับประทานผัก ผลไม้ และอาหารหมักดองในมื้ออาหาร — เพื่อเลี้ยงจุลินทรีย์ดีในลำไส้ของคุณกันนะคะ