SCULPTRA เป็นสารที่ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ โดยการกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน

“SCULPTRA” คืออะไร?

“SCULPTRA” คือ สารกำเนิดคอลลาเจนในรูปแบบฉีดที่ประกอบด้วยอนุภาคของ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็ม และยกกระชับใบหน้า โดยมุ่งเน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) ได้ดีมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลลาเจนมากกว่า 16 ชนิดที่ร่างกายผลิตได้ พบมากกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย มีหน้าที่เสริมสร้างความยืดหยุ่น ซ่อมแซมผิว สามารถพบได้ทั้งในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด โดย Sculptra สามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้มากถึง
ร้อยละ 66.5 หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน

SCULPTRA ได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 1999 โดยมีงานวิจัยรองรับมากกว่า 50 ฉบับ และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Galderma Laboratories, L.P. สามารถใช้ฉีดเข้าชั้นผิวได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และสามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติ

กลไกการทำงานของ SCULPTRA

SCULPTRA มีลักษณะเป็นผง นำมาผสมด้วย Sterile water ก่อนนำไปฉีดเข้าผิวชั้นลึก (Subcutaneous) โดยตัวยาจะกระจายตัวไปทั่วชั้นผิว ทำหน้าที่เพิ่มปริมาณเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน สร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวชั้นเดอมิส (Dermis) ซึ่งเป็นชั้นที่มีเซลล์ไฟ โบรบลาสต์ และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเป็นจำนวนมาก

สาร PLLA จะกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จึงทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเพิ่มได้มากถึง 66.5% จึงช่วยลบเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง หลุมลึกดูตื้นขึ้น รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่สัปดาห์แรกๆหลังรับการรักษา การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย SCULPTRA จะค่อย ๆ สลายจนหมด เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่ผิวสร้างขึ้น ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง คงผลลัพธ์เรื่องการยกกระชับและฟื้นฟูผิวได้ประมาณ 2 ปี

นอกจากนี้สาร PLLA จะเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก (Lactic acid) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารAHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ให้ได้ผิวใหม่ที่กระจ่างใสและเนียนนุ่ม

ข้อห้ามใช้

  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติภูมิไวเกินต่อส่วนประกอบใด ๆ ของผลิตภัณฑ์
  • ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์สกัลป์ทราที่ผสม lidocaine ในผู้ป่วยที่มีประวัติภูมิไวเกินต่อ lidocaine หรือยาชาเฉพาะที่กลุ่ม amide อื่น ๆ
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง ที่มีประวัติการแพ้แบบ anaphylaxis หรือมีประวัติหรือมีอาการแพ้อย่างรุนแรงซ้ำ (multiple severe allergies)
  • ห้ามใช้เมื่อมีรอยโรคระยะแสดงอาการ เช่น การอักเสบ (ผิวหนังที่มีผื่นขึ้น เช่น ถุงซีสต์ สิว ฝืน หรือลมพิษ) การติดเชื้อ หรือ เนื้องอก
    ในบริเวณใกล้เคียงจนกว่าจะสามารถควบคุมอาการได้

เตรียมตัวก่อนฉีด SCULPTRA

  • งดยาอาหารเสริม หรือวิตามินที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น ยาแก้ปวด (พวก NSIADs) เช่น Piroxicam, Ibruprofen, Diclofenac วิตามินอี, น้ำมันเมล็ดองุ่น , Gingko biloba (ใบแปะก๊วย), Evening primrose oil, น้ำมันปลา เป็นต้น อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด SCULPTRA
  • ไม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือโรค แพ้ภูมิตัวเอง เช่น โรค SLE, ต่อมไทรอยด์เป็นพิษระยะเฉียบพลัน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ

ขั้นตอนการฉีด SCULPTRA

  • เข้ารับการตรวจประเมินสภาพผิวโดยแพทย์ผิวหนัง สอบถามและรับคำปรึกษาจากแพทย์ รวมถึงรับทราบข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีด SCULPTRA
  • ทายาชา ในบริเวณที่ฉีดประมาณ 45 นาที
  • แพทย์เตรียม SCULPTRA ให้อยู่ในรูป Active form โดยผสม SCULPTRA เข้ากับน้ำกลั่นปราศจากเชื้อ
    (Sterile water)
  • แพทย์ฉีด SCULPTRA ลงใต้ชั้นผิวในระดับความลึก 1.5-2 มิลลิเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G
  • นวดหน้าเพื่อให้ยากระจายตัว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว

ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากฉีด SCULPTRA

  • ใบหน้ายกกระชับ เรียบเนียน และผิวยืดหยุ่นขึ้น
  • ผิวดูอ่อนเยาว์ และลดเลือนริ้วรอย
  • ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส
  • สามารถคงผลลัพธ์การฉีดได้ยาวนานกว่า 2 ปี

การดูแลตัวเองหลังจากฉีด SCULPTRA

  • นวดหน้าตามหลัก Triple 5 วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ติดต่อกัน 5 วัน เพื่อช่วยให้ยากระจายตัวได้ทั่วใบหน้า
  • ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเพื่อลดอาการบวมช้ำหรือเกิดรอยแดง
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การอบซาวน่า การอบไอน้ำ งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 24 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวีให้มากที่สุด จนกว่าอาการบวมและแดงจะหายเป็นปกติ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือออกกำลังกายอย่างหนักหลังฉีด 24 ชั่วโมง
  • ถ้าต้องการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า ควรทำหลังจากฉีด 2-4 สัปดาห์
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก สีผิวบริเวณที่ฉีดเกิดความเปลี่ยนแปลง ให้แจ้งแพทย์ทันที

SCULPTRA เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  • ผิวหน้ามีริ้วรอย ไม่เรียบเป็นหลุม
  • ต้องการผิวชุ่มชื้น สดใส
  • หลังทำหัตถการอื่น เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ HIFU แล้ว ต้องการให้คุณภาพผิวดีขึ้น

SCULPTRA ของแท้

  • SCULPTRA ของแท้ ต้องมีสติกเกอร์โมโนแกรมบนกล่อง ไม่ถูกเปิดออก อยู่ในสภาพสมบูรณ์
  • มีลายนูนรูปตัว S บนหน้ากล่อง
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทยและเลขทะเบียน อย. ติดอยู่ข้างกล่อง
  • มี QR code สำหรับสแกนตรวจสอบของแท้ผ่านแอปพลิเคชัน EZ Tracker ได้
  • ตัวยา SCULPTRA ก่อนผสมจะมีลักษณะเป็นผง (PLLA powder) ไม่มีของเหลว และเป็นสุญญากาศ

วิธีการนวดหลังฉีด SCULPTRA

การนวดหน้าหลังการฉีด SCULPTRA เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะช่วยในการกระจายยาให้สม่ำเสมอในบริเวณที่ฉีด ลดการบวมแดง ช่วยในการฟื้นฟูเห็นผลได้เร็วขึ้น ด้วยเทคนิค Triple 5 ให้นวด 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลา 5 วันหลังการฉีด Sculptra  ขั้นตอนการนวดมีดังนี้

ขั้นตอนที่ 1
ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้างและใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากบริเวณหน้าผากไปทางขมับด้านข้าง

ขั้นตอนที่ 2
ทำมือในลักษณะยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น แนบบริเวณแก้มทั้งสองข้างตามภาพแล้วค่อยๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปบริเวณข้างแก้มพร้อมกันโดยกดแล้วค่อย ๆ เลื่อนอย่างช้าๆ

ขั้นตอนที่ 3
ใช้อุ้งมือกดบริเวณช่วงข้างแก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากด้านล่างขึ้นไปด้านบนจนถึงโหนกแก้มทำซ้ำไปมาหลาย ๆ ครั้ง เพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้า

ขั้นตอนที่ 4
ทำมือลักษณะเดียวกับ ขั้นตอนที่ 2 บริเวณคางแล้วค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปตามแนวกราม

เพื่อให้การนวดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้กำมือเวลานวด การนวดจะเน้นด้านข้างไปที่ไรผมและหลังหูเสมอ หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณจมูกหรือปาก เพื่อป้องกันการกระจายของสารที่ไม่ถูกตำแหน่ง

รีวิวการฉีด SCULPTRA

คำถามที่พบบ่อยในการฉีด SCULPTRA

หลังฉีด SCULPTRA จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 1-3 สัปดาห์แรก และผลดีขึ้นชัดเจนที่ 3 เดือน คงผลลัพธ์ได้ประมาณ 2 ปี หรือ 25 เดือน

แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ระยะเวลาห่างกันครั้งละ6-8 สัปดาห์ ส่วนปริมาณที่ฉีดขึ้นกับอายุ และสภาพผิว

  • เพื่อให้ผิวสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ผลได้นานประมาณ 2 ปี
  • กรณีฉีดครั้งเดียวโดยไม่ได้ฉีดซ้ำ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-4 เดือน

กรณีฉีด SCULPTRA ร่วมกับสารอื่น
สามารถฉีดพร้อมกับฟิลเลอร์ได้เช่น ฉีด Filler ที่คางหรือปาก และฉีด Sculptra ที่ขมับ หน้าแก้ม เป็นต้น แต่ถ้าตําแหน่งเดียวกัน ชั้นผิวเดียวกัน ไม่แนะนำให้ฉีดพร้อมกัน เพราะจะส่งผลต่อการกระจายตัวของ sculptra  

การเว้นระยะในการฉีด
• ในกรณีฉีด Filler ก่อน แนะนำให้ห่าง 4 สัปดาห์แล้วฉีด Sculptra 
• กรณีฉีด Sculptra ก่อน แนะนำให้เว้น 1 เดือน แล้วค่อยฉีด Filler

ไม่แนะนำให้ฉีดพร้อมกัน เนื่องจากหลังทำ sculptra ต้องนวดบริเวณที่ฉีด ถ้าทำพร้อมกันอาจทำให้ toxin กระจายตัวไปบริเวณข้างเคียงที่ไม่ต้องการได้ จึงควรฉีดตัวใดตัวนึงห่างกัน 2 สัปดาห์

ไม่แนะนำให้ทำพร้อมกัน

• กรณีฉีด Sculptra ก่อน แนะนำให้ห่าง 4 สัปดาห์
• กรณีทำ Mesotherapy, PRP, Exosome ก่อน แนะนำให้ห่าง 2 สัปดาห์ แล้วจึงค่อยมาฉีด Sculptra

ไม่แนะนำให้ฉีดพร้อมกัน ถ้าใช้ Mesofat ควรใช้ก่อนฉีด Sculptra 2 สัปดาห์ หรือใช้หลังฉีด Sculptra 1 เดือน  

ไม่แนะนำให้ทำพร้อมกัน เนื่องจากการทำเลเซอร์บางชนิดจะมีรอยแผล ซึ่งไม่ให้กดนวด จึงแนะนำให้ฉีด Sculptra ห่างอย่างน้อย 1 เดือน

สามารถทำได้ โดยพิจารณาดังนี้

  • ถ้าคนไข้รอได้ แนะนำให้ฉีด Sculptra ก่อน เพื่อกระตุ้นการสร้าง Collagen  แล้วเว้นห่าง 4 -6 สัปดาห์ จึงค่อยนัดคนไข้มาทำเครื่องยกกระชับ
  • ในกรณีที่ทำเครื่องก่อน  (Hifu / Ulthera / Thermage/Ultraformer เป็นต้น) ควรเว้นห่าง 4 สัปดาห์
  • ในกรณีที่คนไข้รีบหรือไม่สะดวกกลับมา ก็สามารถทำพร้อมกันได้ แนะนำให้ทำเครื่องก่อน แล้วค่อยฉีด Sculptra