Calcinosis cutis ภาวะแคลเซียมในเนื้อเยื่อผิวหนัง

วันก่อนมีคนไข้มาปรึกษาหมอด้วยเรื่องตุ่มแข็งเล็กๆใต้ผิวหนัง โดยคนไข้มีประวัติเป็นสิวอักเสบจำนวนมาก และเป็นสิวมานาน
หมอให้การวินิจฉัย เป็น Calcinosis cutis

คือภาวะที่เกิดจากการสะสมของแคลเซียมในเนื้อเยื่อผิวหนัง ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือ การเกิดสิวอักเสบรุนแรง จนทำให้มีแคลเซียมไปสะสมในบริเวณนั้น

มื่อมีการอักเสบของสิวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะสิวที่มีหนองหรือมีการติดเชื้อ ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังเสียหาย ซึ่งกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย จะเริ่มสร้างเนื้อเยื่อใหม่และพยายามซ่อมแซมบริเวณที่เสียหายนั้น ซึ่งในบางกรณีจะมีการสะสมของเกลือแคลเซียมในบริเวณที่อักเสบ เนื่องจากความไม่สมดุลของกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดการก่อตัวของหินปูน (calcification) ใต้ผิวหนัง

ปัจจัยเสริม ได้แก่

  • ความไม่สมดุลของแคลเซียมและฟอสเฟตในร่างกาย
  • อาจมีปัจจัยทางพันธุกรรม

อาการ

มักมีลักษณะเป็นตุ่มสีขาวเล็ก ๆ ตั้งแต่ 1-2 เม็ด จนถึงจำนวนหลายก้อนใต้ผิวหนัง ในบางรายอาจมีอาการเจ็บ ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของก้อนหินปูน

การรักษา calcinosis cutis

ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และตำแหน่งของการสะสมแคลเซียม

  1. ในบางกรณีแพทย์อาจสั่งจ่ายยา เพื่อลดการอักเสบและป้องกันการสะสมของแคลเซียม ได้แก่ ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) หรือ ยา Diltiazem เพื่อลดการสะสมของแคลเซียมในเนื้อเยื่อ
  2. กรณีที่ก้อนแคลเซียมมีขนาดใหญ่, มีปัญหาด้านความงาม หรือมีอาการเจ็บปวด แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัด เพื่อนำก้อนแคลเซียมออก
  3. การใช้เลเซอร์ช่วยลดขนาดของก้อนหินปูน

การป้องกัน

ควรรีบทำการรักษาและควบคุมสิวที่มีการอักเสบ โดยเฉพาะสิวหัวช้าง (nodular acne) หรือสิวที่มีหนอง ซึ่งสิวลักษณะนี้จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกาะของแคลเซียมในบริเวณเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย

ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อทำการรักษาสิวอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้น เพื่อลดผลเสียที่เกิดจากสิวอักเสบนะคะ