มีงานวิจัยจำนวนมากพบว่า โรคอ้วนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม (ในสตรีวัยหลังหมดประจำเดือน), มะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งตับ, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมะเร็งหลอดอาหาร
กลไกสำคัญที่อธิบายความเชื่อมโยงนี้
- ปริมาณฮอร์โมนอินซูลินและ IGF-1 ที่สูงขึ้น จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์
- ฮอร์โมนเอสโตรเจนจากไขมัน จะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมและเยื่อบุโพรงมดลูก
- มีการอักเสบเรื้อรัง (chronic low-grade inflammation) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการกลายพันธุ์ของเซลล์
- เกิดภาวะออกซิเดชัน (oxidative stress) เพิ่มการทำลาย DNA
การลดน้ำหนักช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้อย่างไร?
- การลดไขมันส่วนเกิน จะช่วยลดระดับอินซูลินและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง
- ลดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้ลดโอกาสการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
- ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศในสตรีวัยหมดประจำเดือน
- ส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
หลักฐานจากงานวิจัย
World Cancer Research Fund (WCRF) และ American Institute for Cancer Research (AICR) ยืนยันว่า โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ “ป้องกันได้” ของมะเร็งหลายชนิด
งานวิจัยติดตามผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนพบว่า การลดน้ำหนัก ≥10% ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้
การลดน้ำหนักยังสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่และเยื่อบุโพรงมดลูก
การควบคุมน้ำหนักไม่เพียงช่วยป้องกันเบาหวานและหัวใจ แต่ยังเป็นการ ป้องกันมะเร็งบางชนิด ได้ด้วย การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ร่วมกับการกินอาหารที่สมดุลและออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็น “วัคซีนเชิงพฤติกรรม” ที่ทุกคนทำได้