หลายคนปรึกษาหมอว่า อยากรักษาฝ้าให้หายขาด แต่ขอใช้
ชีวิตลุยๆแบบเดิม ที่จริงการเกิดฝ้าเป็นภาวะสะสมของปัจจัยกระตุ้นต่างๆที่ทำร้ายผิวมาเป็นเวลานาน จนค่อยๆเกิดเงาคล้ำๆที่โหนกแก้ม หลายคนยังคิดว่าปล่อยไว้ก่อนอาจหายเอง
หรือรออีกหน่อยค่อยรักษา จนเป็นฝ้าชัดเจนแล้วทีนี้จะเริ่มจริงจัง การหวังพึ่งแต่ครีมที่จะทำให้ผิวขาว หรือเลเซอร์อาจ
จะไม่เพียงพอแล้ว แต่ต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การใช้ชีวิต
กันเลยทีเดียว
ฝ้าเกิดเมื่อเกิดความเสื่อมของผิว ซึ่งมี 3 อย่าง
เสื่อมตามอายุ ซึ่งจะไม่ต่างกันกันมากในคนทั่วไป
- แสงแดด อันนี้ต่างกันแน่นอน ร่างกายกลัวแก่ จึงสร้างสีผิวคล้ำ เพื่อให้เม็ดสีดูดซับและการจายแสง เช่น คนที่อยู่ในแอฟริกา ต้องมีเม็ดสีมากกว่าชนชาติอื่น เพราะแสงแดดแรงมาก
- สุดท้ายที่พบมากและเริ่มมีงานวิจัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคือ ความเสื่อมของผิวจากมลภาวะ และสารตกค้าง
ในเครื่องสำอาง - สุดท้ายที่พบมากและเริ่มมีงานวิจัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคือ ความเสื่อมของผิวจากมลภาวะ และสารตกค้างใน
เครื่องสำอาง
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ผิวหน้าสร้างแผ่นฝ้าดำๆขึ้นมา เพื่อเป็นกลไกป้องกันผิวหนังรวมถึงคอลลาเจนจากการถูกทำลาย
โดยสร้างเม็ดสีขึ้นมาเพื่อดูดซับแสง UV เพื่อลดถูกทำลายของ
คอลลาเจน
สาเหตุการเกิดฝ้า
- การตากแดดมาก
- อายุที่มากขึ้น
- รอยสิว เป็นเพราะมีการทำลายของชั้นผิว เม็ดสีจึงแตกกระจายลงมาที่ผิวชั้นล่าง
- การระคายเคืองผิว เช่น ใต้รักแร้ที่มีการขัดถู หรือ
ใช้สารเคมีที่ระคายเคือง - การกินยาคุม เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนทำงาน กระตุ้นการสร้างเม็ดสีด้วย
- คนท้อง คนใกล้หมดประจำเดือน สีผิวที่คล้ำขึ้นล้วนสัมพันธ์กับฮอร์โมน
- โรคอื่นๆ เช่น โรคตับแข็ง ไตวาย
ดังนั้นบางภาวะเป็นธรรมชาติ เช่น การอาศัยในพื้นที่ๆ
มีแสงแดดแรง การแก้ไขให้ผิวขาวขึ้นอาจไม่มีจำเป็น
การรักษาผิวให้สว่างขึ้น หลักการคือ การทำให้จำนวนเม็ดสีน้อยลง หรือการสร้างเม็ดสีได้น้อยลง ดังนี้
- หลบแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการใช้ฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน
- ผิวคล้ำขึ้นจากโรคที่เป็น เช่นโรคไต SLE เป็นต้น
ควรรักษาที่โรคต้นเหตุก่อน - ทาสารที่ลดการทำงานของเม็ดสี ทั้งนี้มีทั้งสารที่แพทย์ต้องควบคุมการใช้ และที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่ที่ต้องดูคือส่วนประกอบสำคัญควรมีติดไว้
- การทำ treatment ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีมากมายที่เห็นผลได้ดีขณะนี้ คือ เครื่อง electroporation (Infusion) เพราะมีงานวิจัยพื้นฐานที่ได้รับรางวัลโนเบล น่าสนใจ
ที่สามารถพาสารได้ลึกเข้าสู่ผิวหนังได้พอกับการฉีดสารเข้าโดยตรง - การใช้เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะที่จับเม็ดสีโดยตรง เพื่อทำให้เม็ดสีแตกออก ช่วยให้สีผิวสว่างใส
ขึ้นเช่น Nd Yag laser - การกินยาและอาหารเสริมบางชนิด ควรศึกษาถึงผลที่ได้รับและความปลอดภัย เช่น Tranexamic , pyncnogenol, astraxanthine เป็นต้น
- การฉีดสารเข้าเส้นเลือดดำ ต้องพิจารณาถึงชนิดของสารที่ใช้ และคำนึงถึงความปลอดภัย เช่น glutathione,
vitamin C เป็นต้น