ในยุคปัจจุบัน ปัญหามลพิษทางอากาศกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่สามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
องค์การอนามัยโลก (WHO) (อัปเดต 2021)
ค่าเฉลี่ยรายปี: ≤ 5 µg/m³
ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง: ≤ 15 µg/m³
สหรัฐอเมริกา (US EPA)
ค่าเฉลี่ยรายปี: ≤ 12 µg/m³
ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง: ≤ 35 µg/m³
ประเทศไทย (มาตรฐานใหม่ 2566)
ค่าเฉลี่ยรายปี: ≤ 15 µg/m³
ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง: ≤ 37.5 µg/m³
WHO กำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุด
เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ ในขณะที่แต่ละประเทศอาจกำหนดค่ามาตรฐานที่ต่างกัน ตามสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจของตน
PM2.5 มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร?
ผลกระทบระยะสั้น
- แสบตา & ผิวหนังอักเสบ: แสบตา น้ำตาไหล ผิวแห้งและระคายเคือง
- ไอ จาม หายใจติดขัด: ระคายเคืองจมูกและลำคอ อาการคล้ายภูมิแพ้
- ใจสั่น & ความดันสูง: หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น
- อ่อนเพลีย & ปวดศีรษะ: ทำให้ร่างกายอ่อนล้า สมาธิลดลง
ผลกระทบระยะยาว
- โรคปอดเรื้อรัง: หอบหืด ปอดอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
- โรคหัวใจและหลอดเลือด: หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดอุดตัน เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
- มะเร็งปอด: PM2.5 มีสารก่อมะเร็งที่สะสมในปอด
- กระทบสมอง: เสี่ยง สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ และความจำลดลง
- กระทบหญิงตั้งครรภ์: เสี่ยง คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำ
ใครเสี่ยงต่อ PM2.5 มากที่สุด?
- เด็กเล็ก – ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่สมบูรณ์
- ผู้สูงอายุ – เสี่ยงโรคปอดและหัวใจ
- หญิงตั้งครรภ์ – กระทบต่อพัฒนาการของทารก
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง – โดยเฉพาะโรคปอด หัวใจ และภูมิแพ้
- ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง – รับฝุ่นมากกว่าปกติ
แนวทางป้องกันตนเองจากฝุ่น PM2.5
- หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านเมื่อค่าฝุ่นสูง
- สวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่มีประสิทธิภาพสูง
- ปิดประตูหน้าต่าง ใช้เครื่องฟอกอากาศ
- หลีกเลี่ยง การเผาขยะ & ควันบุหรี่
- ดื่มน้ำมาก ๆ และกินอาหารที่มี วิตามินซีและอี (เช่น ส้ม อะโวคาโด อัลมอนด์)
“อากาศสะอาด = คุณภาพชีวิตที่ดี” ติดตามค่าฝุ่นทุกวัน และป้องกันตัวเองจาก PM2.5 เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ